เริ่มต้น"ร้านกาแฟ"
จากประสบการณ์ความสำเร็จ เจาะลึกทุกขั้นตอนการเปิดร้านกาแฟ ตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงขั้นสูงสุด และบทความดีๆมากมายให้คุณได้ศึกษากันทุกซอกทุกมุมเกี่ยวกับธุรกิจร้านกาแฟ

อยากเปิดร้านกาแฟต้องเริ่มต้นอย่างไร?



             1) ก่อนอื่นคุณต้องสำรวจตัวเองก่อนค่ะ ว่าคุณพร้อมที่จะเปิดร้านกาแฟหรือยัง คุณรู้จักและรักในธุรกิจร้านกาแฟดีแค่ไหน การเริ่มต้นธุรกิจร้านกาแฟไม่ใช่เรื่องง่ายคะ แต่ก็ไม่ยากซะทีเดียว หากคุณมีเงินทุนสูงแค่ซื้อแฟรนไชส์ร้านกาแฟก็สามารถเปิดร้านได้แล้ว ซึ่งปัจจุบันก็มีแฟรนไชส์ให้เลือกมากมาย หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือเปิดร้านเองเลย....ซึ่งทั้งสองทางเลือกคุณจำเป็นต้องมีความรู้ และความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจร้านกาแฟก่อนพอสมควร แต่!!!...ต้องศึกษาให้ดีก่อนค่ะ เพราะยิ่งใช้เงินทุนสูงความเสี่ยงยิ่งสูงขึ้นด้วย จะคุ้มทุนแค่ไหน เมื่อไร ข้อแรกนี้สำคัญมากค่ะ ต้องเหนื่อยและใช้เวลามากสักหน่อย

สรุปคือ คุณต้องมีความรู้ ความเข้าใจในธุรกิจร้านกาแฟก่อน จากนั้นกำหนดงบประมาณลงทุนสูงสุด

             2) คุณจำเป็นต้องมีทำเลสำหรับร้านกาแฟของคุณก่อน เลือกจากงบประมาณที่คุณตั้งไว้ โดยต้องเลือกด้วยว่าค่าซื้อ ค่าเช่าเท่าไร และทำเลที่เลือกนั้นมีลูกค้ามากแค่ไหน โอกาสทางการตลาดเป็นอย่างไร จะคุ้มค่ากับเงินลงทุนหรือไม่

             3) เมื่อได้ทำเลแล้ว ต่อไปก็ต้องเลือกประเภทของธุรกิจร้านกาแฟ วางแผนว่าภายในร้านกาแฟของเราจะจำหน่ายอะไรบ้าง เพื่อจะได้ใช้ในการออกแบบร้านง่ายขึ้น จากนั้นก็ต้องจัดหาเครื่องชงกาแฟ อุปกรณ์กาแฟ รวมทั้งวัตถุดิบต่างๆ และสุดท้ายก็จะต้องหมั่นพัฒนาความรู้ ซึ่งสามารถศึกษาได้ตามสถาบันสอนกาแฟ หลายๆที่ ซึ่งบริษัท รีเทลลิงค์ (ไทยแลนด์) จำกัด ก็ได้จัดโครงการอบรมกาแฟสร้างอาชีพ เพื่อชุมชนและสังคม ขอบอกนะคะว่าฟรีตลอดงานเจ้าค่ะ ไม่มีข้อผูกมัดใดๆทั้งสิ้น ^0^ ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดใบสมัคร ได้ที่ Website --> http://www.retailink.co.th หรือ กรอกใบสมัครที่บล็อกเด็กร้านกาแฟเลยก็ได้นะคะ

              สิ่งสำคัญที่สุดคือ ...เปิดร้านกาแฟโดยมุ่งเน้นคุณภาพมากกว่าเปิดเป็นธุรกิจหรือเทรนด์…นะคะ


~ร้านกาแฟแบบต่างๆ

ระวัง!! ตะกรันตัวปัญหาเครื่องชงกาแฟ

                ตะกรัน คืออะไร จะรู้ได้อย่างไรว่าเครื่องชงกาแฟชองเรามีตะกรันหรือไม่ แล้วตะกรันมีผลเสียอย่างไรกับเครื่องชงกาแฟละ?



ตะกรัน เป็นอย่างไรนะ                              
              ตะกรัน หรือ หินปูน มีลักษณะเป็นของแข็งคล้ายหิน เกิดจากการสะสมของสิ่งเจือปนที่มากับน้ำซึ่งจะทำปฏิกิริยากับความร้อนแล้วตกตะกอนสะสมวันละนิดวันละหน่อย 

             ตะกรันเป็นหินปูนสีขาวๆ เกิดขึ้นตามคุณภาพของน้ำ หากน้ำมีความกระด้างจะทำให้เกิดการก่อตัวของคาร์บอเนตแข็ง (Solid Carbonate) ทั้งนี้จะมากหรือน้อยก็ขึ้นกับความกระด้างของน้ำ โดยที่ความกระด้างของน้ำขึ้นอยู่กับปริมาณของเกลือ แคลเซียม และแมกนีเซียมที่อยู่ในน้ำ การทำความสะอาดสามารถใช้น้ำส้มสายชูแทนได้หากมีหินปูนเพียงเล็กน้อย แต่หากหินปูนติดแน่น ควรใช้น้ำยาสำหรับล้างตะกรันโดยเฉพาะ

              แล้วตะกรันที่เกาะรอบๆกาต้มน้ำ...เป็นอันตรายต่อร่างกายหรือไม่ ?
              เมื่อต้มน้ำประปาสักพักอุณหภูมิที่สูงขึ้นจะทำให้เกิดการตกตะกอน และเกิดเป็นหินปูนเกาะรอบๆหม้อต้มน้ำ โดยปริมาณจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความกระด้างของน้ำ ควรมีค่าความกระด้างประมาณ 80-100 มก./ล. ตามปกติแล้วน้ำที่ผ่านการต้มจะไม่มีอันตรายต่อร่างกายสามารถดื่มได้ แต่อุณหภูมิของร่างกายมนุษย์เราไม่สามารถทำให้น้ำที่มีความกระด้างตกตะกอนหรืออุดตันอวัยวะต่างๆ

              หลังจากใช้งานเครื่องชงกาแฟไปได้สักระยะหนึ่งไม่ถึงสองเดือน จะเกิดผลึกของสนิมเกาะไปทั่วหม้อต้มกาแฟและแท่งฮีทเตอร์  เนื่องจากน้ำมีการกรองไม่สมบูรณ์มีโลหะหนักปริมาณมาก  ขณะต้มน้ำจะเกิดการสะสมเกาะปนกับหินปูน ซึ่งส่งผลต่อการทำความร้อนของเครื่องชงกาแฟทำให้เกิดการถ่ายเทความร้อนได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ในที่สุดเครื่องชงกาแฟก็จะไม่ทำความร้อน

               วิธีแก้ไขไม่ควรจะแก้ไขด้วยการล้างหม้อต้มอย่างเดียว เพราะจะทำให้เกิดอาการแบบเดิมซ้ำซาก ควรจะแก้ไขที่ระบบกรองน้ำค่ะเปลี่ยนระบบกรองน้ำและเส้นทางเดินน้ำของเครื่องชงกาแฟใหม่ทั้งระบบ

~ร้านกาแฟแบบต่างๆ

เงินลงทุน สำหรับเปิดร้านกาแฟ แบบที่3 "Stand Alone"


                  เงินที่ใช้ในการลงทุนเปิดร้านกาแฟแบบที่ 3 "Stand Alone" ใช้สูงกว่า้ ร้านกาแฟแบบที่ 1 "Cart" และ แบบที่ 2 "Corner/Kiosk" ค่อนข้างมาก  เนื่องจากร้านกาแฟมีพื้นที่มากกว่า 50 ต.ร.ม. (เป็นร้านกาแฟขนาดใหญ่) และต้องใช้เงินลงทุนในส่วนสินทรัพย์ถาวรสูง ทั้งในการก่อสร้าง การออกแบบตกแต่ง การวางระบบต่างๆ และค่าอุปกรณ์มากกว่าร้านกาแฟแบบอื่นๆ

แผนภูมิวงกลมแสดงการเปรียบเทียบต้นทุนเริ่มต้น
ของร้านกาแฟแบบที่1 (Cart), 
แบบที่2 (Corner) และ แบบที่3 (Stand Alone)



                  จากแผนภูมิวงกลมจะพบว่า ร้านกาแฟแบบที่3 (Stand Alone) ต้องใช้ต้นทุนในการลงทุนสูงที่สุด จัดเป็นเงินลงทุนเริ่มแรกประมาณ 800,000 ถึง 1,500,000 บาท (ร้านกาแฟรูปแบบนี้ส่วนใหญ่มักจะมีโครงสร้างต้นทุนคล้ายๆกัน)



                  1. เงินลงทุนส่วนสินทรัพย์ถาวร ประมาณ 90% ได้แก่
  • ค่าก่อสร้าง ออกแบบ และตกแต่งสถานที่
  • ค่าวางระบบต่างๆ (ไฟฟ้า น้ำประปา โทรศัพท์ ระบบเก็บเงิน)
  • ค่าอุปกรณ์

                  2. เงินทุนหมุนเวียนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเริ่มต้น ประมาณ 10% ได้แก่

  • ค่าวัตถุดิบสินค้า
  • ค่าบรรจุภัณฑ์
  • ค่าจ้างพนักงาน
  • ค่าเช่าพื้นที่
  • ค่าน้ำ ค่าไฟ
  • ค่าใช้จ่ายในการขายบริหาร
                   หากสนใจร้านกาแฟรูปแบบนี้้ ควรที่จะมีความพร้อมทางด้านสินทรัพย์ถาวร หรือคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้เ้ข้ามาทันกับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น ซึ่งคุณก็สามารถปรับลดสัดส่วนของสินทรัพย์ถาวรหรือเงินทุนหมุนเวียนที่จะนำมาเป็นค่าใช้จ่ายเริ่มต้นลงได้ ดังนั้นสัดส่วนการลงทุนจึงขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของผู้ที่จะเปิดร้านเองด้วยนะคะ


~ร้านกาแฟแบบต่างๆ

เงินลงทุน สำหรับเปิดร้านกาแฟ แบบ Cart และ แบบ Corner/Kiosk


เงินลงทุน สำหรับเปิดร้านกาแฟ แบบที่1 "Cart"
                  ร้านกาแฟแบบรถเข็นถือว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้ร้านกาแฟประเภทอื่นๆ เหมาะกับผู้ที่อยากเปิดร้านกาแฟแต่มีงบประมาณจำกัด ถือว่าเป็นร้านกาแฟที่ใช้เงินลงทุนต่ำที่สุด...มีเงินเพียง 80,000 บาท คุณก็สามารถเปิดร้านกาแฟได้แล้ว เพราะไม่ต้องเสียค่าวางระบบไฟฟ้า และค่าวางระบบโทรศัพท์ ทั้งยังใช้พื้นที่ไม่มากประมาณ 2-3 ต.ร.ม. เป็นร้านกาแฟที่สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก หาทำเลที่ตั้งได้ง่ายเข้าถึงตลาดทุกระดับ ยิ่งหาทำเลได้ดีโอกาสจะได้กำไรที่สูงก็มากขึ้นเท่านั้น จึงนับว่าร้านกาแฟประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ที่อยากเปิดร้านกาแฟแต่มีงบน้อย และยังมีความเสี่ยงต่ำ



 เงินที่ใช้ในการลงทุนเปิดร้านกาแฟแบบที่ 2 "Corner/Kiosk" (ร้านกาแฟขนาดกลาง)
                  ร้านกาแฟประเภทนี้มีพื้นที่มากกว่า 6 ต.ร.ม.ขึ้นไป (เป็นร้านกาแฟขนาดกลาง) ต้นทุนในส่วนของวัตถุดิบจะใช้อัตราเดียวกับร้านกาแฟประเภท Cart ต้นทุนเริ่มต้นที่ใช้ในการลงทุนโดยประมาณในส่วนสินทรัพย์ประมาณ 605,000 บาท ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามความเหมาะสม โดย 50 % ของเงินลงทุนเป็นค่าออกแบบตกแต่งและค่าระบบไฟฟ้า อีก 50 % ที่เหลือเป็นส่วนของต้นทุนของเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์กาแฟภายในร้าน เช่น เครื่องชงกาแฟ เครื่องบดเมล็ดกาแฟ เครื่องปั่น เครื่องเก็บเงิน เป็นต้น 

~ร้านกาแฟแบบต่างๆ

เปิดร้านกาแฟลงทุนเท่าไร?


          สำหรับผู้ที่สนใจอยากเปิดร้านกาแฟเป็นของตัวเอง คงอยากทราบใช่ไหมคะว่าจะต้องใช้งบประมาณในการลงทุนเท่าไร เรามีวิธีประมาณการค่าใช้จ่ายและต้นทุนเริ่มต้นในการลงทุนเปิดร้านกาแฟ ง่ายๆ มาฝากค่ะ เผื่อว่าจะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นค่ะ


          ก่อนอื่นเราต้องเลือกประเภทของร้านกาแฟที่เหมาะกับคุณก่อนของ โดยจะทำให้คุณทราบว่าร้านของคุูณจัดอยู่ในกลุ่มไหน
          
          หลังจากเลือกประเภทของธุรกิจร้านกาแฟได้แล้ว นำประเภทของร้านกาแฟของคุณมาประมาณต้นทุนที่ใช้ในการลงทุนกันได้เลย 

          
กลุ่มที่สอง -->  Corner/Kiosk (ร้านกาแฟขนาดกลาง)        



~ร้านกาแฟแบบต่างๆ

ร้านกาแฟแบบไหน เหมาะกับคุณ


          สำหรับผู้ที่สนใจอยากเปิดร้านกาแฟเป็นของตัวเอง เรามีวิธีการง่ายๆที่จะทำให้คุณเลือกประเภทร้านกาแฟกันง่ายขึ้นค่ะ


          เริ่่มแรกนะคะ เราจำเป็นต้องมีทำเลที่ตั้งร้านกาแฟของเราก่อนค่ะ ว่าตั้งอยู่ที่ไหน สภาพแวดล้อมรอบข้างเป็นอย่างไร....เช่น มีห้างสรรพสินค้า โรงเรียน มหาวิทยาลัย ศูนย์ราชการ หรือปั้มน้ำมัน ...เป็นต้น


          ทำไมน่ะเหรอคะ?...ก็เพราะหลังจากที่เราได้ทำเลที่ตั้งของร้านกาแฟ เราจะรู้ขนาดของร้านกาแฟ รู้ว่าที่ตั้งและสภาพแวดล้อมรอบข้างเป็นอย่างไร พฤติกรรมการบริโภคกาแฟของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นอย่างไร นอกจากนั้นยังสามารถคาดการรายไ้ด้ก่อนเปิดร้านได้ด้วยนะคะ ^0^ว๊าว!!!!
          (เดี่ยวเราจะอัปเดทบทความเกี่ยวกับการเลือกทำเลที่ตั้งร้านกาแฟมาฝากค่ะ อย่าลืมกลับมาติดตามนะคะ)

           ก่อนอื่นให้นำขนาดพื้นที่ทำเลของร้านไปดูในภาพด้านล่างนี้ค่ะ 
           จากภาพจะทำให้เราทราบกลุ่มและประเภทของร้านกาแฟของเรา ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มดังนี้้ค่ะ

กลุ่มแรก => พื้นที่ > 50 ต.ร.ม. (ร้านกาแฟขนาดเล็ก)
           ลักษณะเป็นอาคารอิสระหรือห้องเช่า โดยร้านกาแฟมักจะตั้งอยู่ในย่านชุมชน ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน หรือพลาซ่าใหญ่ๆ

กลุ่มที่สอง => พื้นที่ > 6 ต.ร.ม. (ร้านกาแฟขนาดกลาง)
           ลักษณะเป็นมุมกาแฟภายในอาคารศูนย์การค้า หรือพลาซ่า ร้านกาแฟประเภทนี้มักมีจำนวนที่นั่งจำนวนเพียงเล็กน้อย

กลุ่มที่สาม => พื้นที่ ประมาณ 2-4 ต.ร.ม. (ร้านกาแฟขนาดใหญ่)
           ส่วนมากลักษณะเป็นรถเข็น สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย สะดวก หาทำเลที่ตั้งได้ง่าย ทำให้เข้าถึงไ้ด้ทุกตลาด เช่น ตั้งอยู่ระหว่างทางเดินในอาคารศูนย์การค้า หรือพลาซ่า ตามริมถนนหรือตามทางเดิน
          
           หลังจากได้ทำเลแล้ว เราจะนำขนาดพื้นที่มาใช้ประกอบการเลือกประเภทของธุรกิจร้านกาแฟกันค่ะ  ซึ่ง ธุรกิจร้านกาแฟมีด้วยกัน7ประเภท โดยต้องดูข้อจำกัดของแต่ละประเภทประกอบการตัดสินใจด้วยนะคะ อาจเลือกหลายประเภทรวมกันก็ได้ค่ะ แต่ขอบอกก่อนนะคะว่าร้านกาแฟแต่ละประเภทใช้เงินลงทุนแตกต่างกันนะคะ 
                    

ได้กลุ่มและประเภทแล้วลอง ประมาณต้นทุนค่าใช้จ่ายในการเปิดร้านกาแฟ กันค่ะ


~ร้านกาแฟแบบต่างๆ

ราศีธนูกับการเปิดธุรกิจร้านอาหาร ร้านกาแฟ

ราศีธนู (Sagittarius)



                     ชาวราศีธนูเป็นชาวราศีธาตุไฟ เป็นราศีที่มีความเป็นคนเจ้าปัญญา สามารถที่จะเผชิญปัญหาต่างๆได้โดยไม่ตื่นกลัว มักชอบทำงานร่วมกับคนอื่นและเป็นที่ยอมรับต่อสังคม หากจะทำธุรกิจร้านกาแฟหรือธุรกิจร้านอาหารมักจะเป็นแนวๆประเภทร้านกาแฟแบบCafeซะมากกว่าเพราะเป็นผสมผสานทั้งอาหารหลักและอาหารประเภททานเล่นหรือของว่าง เช่น เค้ก กาแฟ หรือน้ำผลไม้ (^3^)

บทความที่คล้ายกัน

แต่งร้านกาแฟให้เหมาะกับกรุ๊ปเลือด
ร้านกาแฟแบบRetail Coffee Shop
ร้านกาแฟแบบRoaster/Retailers



~ร้านกาแฟแบบต่างๆ
ด็กร้านกาแฟ --> "ปล.เพื่อนคนไหนที่สนใจบทความดีๆจากเว็บเด็กร้านกาแฟ สามารถสมัครรับบทความที่อัพเดทผ่านอีเมลล์ ในช่อง"Follow by Email"ทางด้านบนขวามือค่ะ เพียงกรอกอีเมลล์แล้วกด Submit จากนั้นเข้าไปเช็คอีเมลล์ที่ทางเว็บเด็กร้านกาแฟส่งไปให้ แล้วคลิกยืนยัน เป็นอันเสร็จค่ะ

“รีเทลลิงค์” คว้าแบรนด์ดังทำตลาด ขยายร้านรุกชุมชน-เจาะเมืองหลัก

สถานะการตลาด MARKETING จาก thannews.th.com ==> อุปกรณ์ทำกาแฟโต1,000%
               รีเทลลิงค์รับผลพวงธุรกิจร้านกาแฟบูม ปี 2553 โกยยอดขาย 1,700 ล้านบาท ชิงส่วนแบ่งตลาดได้กว่า 30% เผยตั้งแต่ต้นมกราคมปีนี้ เครื่องทำกาแฟ 2 ยี่ห้อดังติดอันดับโลกวางใจให้เป็นตัวแทนจำหน่ายเพียงรายเดียว พร้อมวางแผนบุกตลาดเต็มสูบ ขยายร้านกาแฟชุมชนต้นแบบเพิ่มอีก 3 แห่ง ใน 3 เมืองหลัก เชียงใหม่ หาดใหญ่ อุดรธานี ขณะเดียวกันเดินหน้ารุกตลาดอุปกรณ์ทำอาหารอย่างจริงจัง พร้อมกับเปิดธุรกิจใหม่ทำความสะอาดอาคารสูง คาดหมายดันรายได้รวมทั้งปีเพิ่มอีกเท่าตัว

               นายนริศ ธรรมเกื้อกูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท รีเทลลิงค์ (ไทยแลนด์) จำกัดบริษัทในกลุ่ม ซีพี ออลล์ ที่ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายอุปกรณ์ประกอบอาหาร เครื่องดื่มและอุปกรณ์ต่างๆในการประกอบธุรกิจอาหาร เช่น ภัตตาคาร โรงแรม ร้านสะดวกซื้อเปิดเผยว่า ในปี 2553 ที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานของบริษัทมีการเติบโตโดยเฉลี่ย 12% สูงกว่าตลาดโดยภาพรวมซึ่งหดตัวถึง 30% เนื่องจากเหตุการณ์วุ่นวายทางการเมือง ส่งผลกระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยว โดยยอดขายรวมตลอดทั้งปีประมาณ 1,700 ล้านบาท ทั้งนี้สินค้าที่ทำรายได้หลักคืออุปกรณ์เครื่องดื่ม มีสัดส่วนยอดขายสูงถึง 90% ของยอดขายรวมทั้งบริษัท ที่เหลือเป็นยอดขายอุปกรณ์ประกอบอาหาร 

               ปีที่ผ่านมายอมรับว่าอุปกรณ์เครื่องดื่มโดยเฉพาะเครื่องชงกาแฟมีการเติบโตอย่างมากทั้งนี้ รีเทลลิงค์สามารถขายเครื่องชงกาแฟราคาหลักแสนบาท เพียงตัวเดียวขายได้ถึง1,000 เครื่อง คิดเป็นยอดขาย 100 ล้านบาท ทำให้เครื่องชงกาแฟ 2 ยี่ห้อ คือNUOVA SIMONILLE และ RANCILIO ซึ่งเป็นแบรนด์ติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลก เซ็นสัญญาให้บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงรายเดียวในประเทศไทย จากเดิมมีตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย 3-4 ราย เพราะในปี 2553 รีเทลลิงค์บริษัทเดียวสั่งซื้อ 1,000เครื่อง สูงกว่าตัวแทนจำหน่ายทุกรายรวมกัน 

                นอกจากนี้ยังมีผู้สนใจเข้ารับการอบรมในโครงการกาแฟสร้างอาชีพเพื่อสังคมและชุมชน ตลอดทั้งปี 2553 รวมแล้ว 13 รุ่น จำนวน 900 คน และยังมีรายชื่อที่รอบรรจุเข้ารับการอบรมอีกประมาณ 2,000 ราย จะเห็นได้ว่าขณะนี้มีผู้ให้ความสนใจเปิดกิจการร้านกาแฟสดค่อนข้างมาก แม้บริษัทจะขยายการจัดอบรมจากเดือนละ 2 ครั้งเป็น 4 ครั้ง อีกทั้งเพิ่มจำนวนผู้เข้าอบรมจากรุ่นละ 40คน เป็นรุ่นละ 80 คน ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ

                 "ในปีที่ผ่านมายอดการนำเข้าเครื่องอุปกรณ์ทำกาแฟในปี 2553 สูงกว่าปีก่อนหน้าประมาณ 1,000% ทั้งๆ ที่เมื่อ 5-6 ปีก่อน รีเทลลิงค์มีแผนจะรุกเข้ามาทำตลาดเครื่องชงกาแฟ เคยมีผู้เตือนว่าอย่าเข้ามา ตลาดกำลังจะอิ่มตัว แต่ผมไม่เชื่อเพราะจากการศึกษาสถิติการบริโภคกาแฟของทั่วโลก คนยุโรปบริโภควันละ 5 แก้ว แต่คนไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 0.5 แก้ว ฉะนั้นโอกาสยังมีอีกมาก"

                 นายนริศกล่าวต่อไป สาเหตุที่คนไทยบริโภคกาแฟสดน้อยก็เพราะราคาค่อนข้างแพงตั้งราคาขายแก้วละ 60-100 บาท แต่จากการวิจัยผู้บริโภคได้คำตอบว่าอยากดื่มกาแฟสด แต่ไม่สามารถจ่ายได้ จึงหันไปดื่มกาแฟสำเร็จรูปซึ่งมีราคาถูกกว่าแทน นอกจากนี้ยังได้วิจัยเกี่ยวกับราคาที่ลูกค้าสามารถจ่ายได้ พบว่าอยู่ที่แก้วละ 25 บาท สำหรับกาแฟร้อน และ 30 บาท สำหรับกาแฟเย็น ทำให้บริษัทเกิดแนวคิดเปิดร้านกาแฟต้นแบบ ตั้งราคาตามนั้น ปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดี ขณะนี้ยอดขายเฉลี่ยวันละ 200-300 แก้วทั้งที่ในละแวกเดียวกันมีร้านกาแฟสดอยู่ถึง 6 ร้าน

                  ในปีนี้มีแผนจะขยายร้านกาแฟต้นแบบเพิ่มอีก 3 แห่ง ใน 3 เมืองหลัก ได้แก่ เชียงใหม่ หาดใหญ่ และอุดรธานี เพื่อรองรับความสนใจในธุรกิจร้านกาแฟที่เพิ่มขึ้นอย่างมากพร้อมกันนี้วางแผนจะขยายศูนย์บริการให้ครบทุกจังหวัดใน 3 ปี จากปัจจุบันที่มี 36จังหวัด โดยตั้งเป้าจะเพิ่มการทำยอดขายของพนักงานให้ได้ 2 ล้านบาทต่อคน ภายในอีก 2 ปี ซึ่งปัจจุบันรีเทลลิงค์มีพนักงานทั้งสิ้น 1,200 คน โดยบริษัทยึดระบบการเพิ่มผลผลิตTPM (Total Productive Management) ในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการให้บริการแก่ลูกค้า บวกด้วยกลยุทธ์การให้บริการหลังการขาย และสัญญาบริการ แบบครบวงจรตลอด 7 วัน และ 24 ชั่วโมง ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศด้วยศูนย์บริการ 36 จุด ทีมช่างมัลติ สกิลล์ 500 คน จากพนักงานช่างประจำที่มี 800 คน และรถบริการกว่า400 คัน แบ่งเป็นกระบะ 100 คัน จักรยานยนต์ 300 คัน 

                  ทั้งนี้ ในปี 2554 บริษัทวางแผนรุกตลาดอุปกรณ์ประกอบอาหารอย่างจริงจัง หลังจาก3 ปีที่ผ่านมาได้บุกตลาดอุปกรณ์เครื่องดื่มจนอยู่ตัวแล้ว โดยจะเน้นอุปกรณ์ 4 ชนิด มีเครื่องล้างจาน เครื่องอบ เตาทอด และเครื่องปิ้งย่าง คาดว่าจะได้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นอีก 4%
นอกจากนี้มีแผนจะขยายธุรกิจใหม่ๆเพิ่ม โดยจะให้บริการทำความสะอาดภายนอกอาคารสูง ซึ่งปัจจุบันในกรุงเทพฯ มีอาคารสูงเกิดขึ้นจำนวนมาก แต่มีผู้เล่นในตลาดนี้เพียง 2-3 รายเท่านั้น จึงเป็นโอกาสของรีเทลลิงค์ที่จะแทรกตัวเข้าไป คาดว่าธุรกิจใหม่นี้จะทำให้ยอดรายได้ของบริษัทเติบโตเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,599 9-12 มกราคม พ.ศ. 2554

ร้านกาแฟแบบ Drive Thru Coffee Shops

               ร้านกาแฟประเภทที่ 5 Drive Thru Coffee Shops เป็นอีกหนึ่งประเภทที่น่าสนใจ จุดเด่นคืร้านกาแฟจะตั้งบริเวณริมถนนที่วุ่นวายมีคนสัญจรจำนวนมากมักเป็นเส้นทางที่คนจำนวนมากเดินทางไปทำงานที่รถสามารถขับผ่านได้ ธุรกิจประเภทนี้สามารถทำกำไรได้จำนวนมากหากเลือกทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม คุณสามารถเริ่มต้นเปิดร้านเองได้หรือจะเลือกจากแฟรนไชส์ก็ได้




ภายในร้านกาแฟจะมีแต่เครื่องใช้และอุปกรณ์ที่จะำเป็นต้องใช้จริง เพราะพื้นที่ของร้านกาแฟค่อนข้างจำกัด


จะเห็นได้ว่าร้านกาแฟประเภทนี้ประหยัดเรื่องการออกแบบร้านไปมากเลย



สิ่งที่สำคัญที่สุดของร้านกาแฟแบบนี้คือการเลือกทำเลที่มีการสัญจรไปมาสูง ยิ่งสูงยิ่งได้กำไรมาก


ปั้มน้ำมันก็ถือว่าเป็นทำเลดีเหมือนกัน สำหรับร้านกาแฟแบบ Drive Thru Coffee Shops 



~ร้านกาแฟแบบต่างๆ
ด็กร้านกาแฟ --> "ปล.เพื่อนคนไหนที่สนใจบทความดีๆจากเว็บเด็กร้านกาแฟ สามารถสมัครรับบทความที่อัพเดทผ่านอีเมลล์ ในช่อง"Follow by Email"ทางด้านบนขวามือค่ะ เพียงกรอกอีเมลล์แล้วกด Submit จากนั้นเข้าไปเช็คอีเมลล์ที่ทางเว็บเด็กร้านกาแฟส่งไปให้ แล้วคลิกยืนยัน เป็นอันเสร็จค่ะ

ราศีตุลย์กับการเปิดธุรกิจร้านอาหาร ร้านกาแฟ

ราศีตุลย์ (Libra)




                 ชาวราศีตุลย์เป็นเจ้าราศีแห่งธาตุลม เป็นคนที่ง่ายๆสบายๆ ใครอยู่ใกล้ก็มักจะอบอุ่นไม่เครียด รักความสนุกสนานจึงเหมาะกับงานที่เกี่ยวข้องกับความบันเทิงทุกประเภท ถ้าจะเปิดร้านอาหารก็จะเป็นร้านอาหารที่มีลูกเล่น เช่น อาจตกแต่งร้านในสไตล์ตะวันตก หรือหาอสนใจอยากเปิดร้านกาแฟควรเลือกร้านกาแฟประเภทCoffeehouse ก็เหมาะนะคะ สามารถใช้ไอเดียเก๋ๆตกแต่งสร้างจุดดึงดูดให้กับร้านกาแฟของคุณได้ ความเป็นคนขี้เล่นของชาวราศีตุลย์จะช่วยให้ร้านกาแฟของคุณเป็นที่ติดใจของชาวCoffee&Cake Lovers แน่นอน >w<

บทความที่คล้ายกัน

แต่งร้านกาแฟให้เหมาะกับกรุ๊ปเลือด
ร้านกาแฟแบบRetail Coffee Shop
- ร้านกาแฟแบบRoaster/Retailers

- ร้านกาแฟแบบCoffee House
- ร้านกาแฟประเภทที่ 5 Drive Thru Coffee Shops


~ร้านกาแฟแบบต่างๆ
ด็กร้านกาแฟ --> "ปล.เพื่อนคนไหนที่สนใจบทความดีๆจากเว็บเด็กร้านกาแฟ สามารถสมัครรับบทความที่อัพเดทผ่านอีเมลล์ ในช่อง"Follow by Email"ทางด้านบนขวามือค่ะ เพียงกรอกอีเมลล์แล้วกด Submit จากนั้นเข้าไปเช็คอีเมลล์ที่ทางเว็บเด็กร้านกาแฟส่งไปให้ แล้วคลิกยืนยัน เป็นอันเสร็จค่ะ

ราศีพิจิกกับการเปิดธุรกิจร้านอาหาร ร้านกาแฟ

ราศีพิจิก ( Scorpio)




                   ชาวราศีพิจิกเป็นราศีธาตุน้ำ โดยพื้นฐานมักเป็นคนขยันที่ชอบจะลงมือทำอะไรด้วยตนเอง ไม่ชอบทำตัวเป็นภาระของสังคม อาจจะเหน็ดเหนื่อยบ้างแต่ชาวราศีพิจิกจะไม่มีคำว่าถอยง่ายๆ หากทำธุรกิจอาหารราศีนี้มักจะทำเกี่ยวกับอาหารสดอาหารทะเล ตั้งแต่ออกไปจับกุ้งจับปลา จนนำมาตกแต่งประดิดประดอยเป็นอาหารชั้นเลิศ อ๊าว!! แล้วร้านกาแฟแบบไหนเหมาะกับชาวพิจิกละ ด้วยบุคลิกที่มีความเป็นตัวของตัวเองร้านกาแฟแบบCafe และร้านกาแฟแบบCoffeehouse เหมาะสมกับLife Styleของชาวพิจิกซะจริงๆ ^o^//  


บทความที่คล้ายกัน
แต่งร้านกาแฟให้เหมาะกับกรุ๊ปเลือด
ร้านกาแฟแบบRetail Coffee Shop
- ร้านกาแฟแบบRoaster/Retailers

- ร้านกาแฟแบบCoffee House
- ร้านกาแฟแบบDrive Thru Coffee Shops


~ร้านกาแฟแบบต่างๆ
ด็กร้านกาแฟ --> "ปล.เพื่อนคนไหนที่สนใจบทความดีๆจากเว็บเด็กร้านกาแฟ สามารถสมัครรับบทความที่อัพเดทผ่านอีเมลล์ ในช่อง"Follow by Email"ทางด้านบนขวามือค่ะ เพียงกรอกอีเมลล์แล้วกด Submit จากนั้นเข้าไปเช็คอีเมลล์ที่ทางเว็บเด็กร้านกาแฟส่งไปให้ แล้วคลิกยืนยัน เป็นอันเสร็จค่ะ

เครื่องเช่า ทางเลือกให้ของผู้ที่อยากเปิดร้านกาแฟ แต่ทุนน้อย

                     เครื่องเช่า ทางเลือกของผู้ที่สนใจอยากเปิดร้านกาแฟเป็นของต้นเอง...แต่มีปัญหาเรื่องงบประมาณในการลงทุน
                     เครื่องเช่า ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากในขณะนี้ ที่นอกจากคุณจะไม่ต้องเสียเงินก้อนโตในการลงทุนซื้อเครื่องชงกาแฟและอุปกรณ์ร้านกาแฟโดยทันทีคุณก็สามารถเปิดร้านกาแฟได้ ทำให้คุณสามารถทดลองทำธุรกิจดูก่อน ช่วยให้คุณลดความเสี่ยงในการลงทุนหากคุณยังไม่มั่นในว่าธุรกิจร้านกาแฟของคุณจะประสบความสำเร็จหรือไม่??


                      "ลองประมาณงบประมาณการลงทุนแต่ละทางเลือกกันดูคราวๆนะคะ"
1.เลือกซื้อแฟรนไชส์ คุณต้องใช้เงินมาลงทุนสูงประมาณ 40,000-50,000 บาท
2.หรือหากคุณจะเปิดเป็นร้านกาแฟเลย คุณก็ต้องมีเงินลงทุนสูงกว่า 100,000 บาทอยู่แล้วใช่ไหมละคะ
3.ทางเลือกใหม่สำหรับคนทุนน้อยค่ะ การเลือกใช้บริการเช่าเครื่องชงกาแฟ เป็นทางเลือกที่ทำให้คุณสามารถเปิดร้านได้ทันที โดยมีทุกอย่างครบพร้อมเปิดร้าน ด้วยเงินลงทุน เพียงหมื่นกว่าบาทเท่านั้น

                      สำหรับเครื่องชงกาแฟที่ทางให้เช่านั้นลูกค้าสามารถเลือกเช่าได้ตามลักษณะของร้าน หรือเลือกเช่าตามปริมาณที่คาดว่าจะได้ในแต่ละวัน ซึ่งจะมีราคาค่าเช่าต่อเครื่องอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาทต่อเดือน หรือตกวันละประมาณ 30 บาทเท่านั้น


สำหรับผู้ที่ไม่มีความรู้มาก่อน บริษัท รีเทลลิงค์ (ไทยแลนด์) จำกัด ก็มีจัดอบรมฟรี โครงการCSRกาแฟสร้างอาชีพเพื่อชุมชนและสังคม ซึ่งจะอบรมตั้งแต่เรื่องการเลือกทำเลที่ตั้ง การเลือกเมล็ดกาแฟ การเลือกเครื่องชงกาแฟ การสอนชงกาแฟ การตั้งราคา การคำนวณจุดคุ้มทุน มีสูตรกาแฟให้ด้วยนะคะ^^ และที่สำคัญ อบรมฟรี ไม่มีข้อผูกมัดและค่าใช้จ่ายในการเรียน 



 บริษัท รีเทลลิงค์ (ไทยแลนด์) จำกัด ให้บริการหลังการขายและสัญญาบริการแบบครบวงจรตลอด 7 วัน 24 ชั่วโมง ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศด้วยศูนย์บริการกว่า 30 จุด
                     หากเครื่องชงกาแฟมีปัญหา สามารถติดต่อทางบริษัทฯให้ทำการสำรองเครื่องชงกาแฟ บริษัทจะจัดส่งเครื่องชงกาแฟมาสำรองให้ โดยเครื่องชงกาแฟที่เสียจะถูกส่งกลับไปให้ทางช่างซ่อม เสร็จแล้วจะจัดส่งกลับทันทีค่ะ
             
                     เรียกได้ว่าบริการให้เช่าเครื่องชงกาแฟ เครื่องเช่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจมากๆในขณะนี้เลยนะคะ สำหรับคนที่อยากเปิดร้านกาแฟแบบประหยัดต้นทุน ลดความเสี่ยง และที่สำคัญเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับการลงทุนในยุคที่เศรษฐกิจไทยในปัจจุบันนี้

<สนใจรายละเอียด สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท รีเทลลิงค์ (ไทยแลนด์) จำกัด

**ราคาที่ระบุอาจมีการเปลี่ยนแปลงหากสนจนกรุณาโทรสอบถามที่ 02-792-6800

บริการให้เช่าเครื่องชงกาแฟ-มือสอง

                  นายนริศ ธรรมเกื้อกูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท รีเทลลิงค์ (ไทยแลนด์) จำกัด ในกลุ่มซีพี ออลล์ ผู้ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายอุปกรณ์ประกอบอาหารและเครื่องดื่ม เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปีนี้ จะเน้นขยายฐานธุรกิจด้านเครื่องเช่า เครื่องมือสองปรับสภาพแล้ว และอะไหล่ทดแทนที่จะช่วยให้การบริหารของลูกค้าง่ายและประหยัดค่าใช้จ่าย เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้ารายย่อย จากเดิมที่มุ่งจัดจำหน่ายอุปกรณ์ประกอบอาหารและเครื่องดื่มสำหรับภัตตาคาร โรงแรม และร้านสะดวกซื้อ เนื่องจากปัจจุบัน ผู้บริโภคมีความต้องการที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจกันมากขึ้น ทั้งนี้ บริษัทจะเน้นกลยุทธ์การให้บริการหลังการขายและสัญญาบริการแบบครบวงจรตลอด 7 วัน 24 ชั่วโมง ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศด้วยศูนย์บริการกว่า 30 จุด


                   สำหรับในปีนี้บริษัทสามารถทำยอดขายจนก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาดรวมเครื่องชงกาแฟแบบรุ่นใหญ่ และรุ่นเล็ก โดยเฉพาะตลาดรวมการนำเข้าเครื่องชงกาแฟในกลุ่มโปรเฟสชั่นแนล จากประเทศอิตาลี ในปีที่ผ่านมามียอดจำหน่ายอยู่ที่ 900 เครื่อง แต่บริษัทสามารถทำยอดจองสินค้าได้กว่า 400 เครื่อง เมื่อต้นปีที่ผ่านมา หรือคิดเป็นเกือบ 50% ของตลาดรวมตลอดทั้งปี ทำให้บริษัทต้องรุก ขยายฐานตลาดอย่างต่อเนื่อง และได้จัดโครงการกาแฟสร้างอาชีพเพื่อสังคมและชุมชน เพื่อส่งเสริมการสร้างอาชีพให้กับผู้สนใจประกอบธุรกิจร้านกาแฟ โดยโครงการดังกล่าวจะครอบคลุมเนื้อหาด้านทำเล การจัดการ การตลาด การบริหารร้าน การสร้างความแตกต่าง วิธีชงกาแฟและคัดเลือกวัตถุดิบที่ถูกต้อง และการศึกษาร้านต้นแบบ โครงการ ดังกล่าวไม่มีข้อผูกมัดและค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งบริษัทตั้งเป้าหมายผู้เข้าอบรมไว้ 2,010 คน ภายใน 1 ปี ซึ่งที่ผ่านมาได้จัดอบรมไปแล้ว 9 รุ่น และมีผู้ผ่านการอบรมไปลงทุนเปิดร้านกาแฟแล้วกว่า 30 ร้าน

             อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดดที่ 3,000 ล้านบาท จากปีนี้วางยอดขายรวมไว้ที่ 1,500 ล้านบาท หรือเติบโต 10% ซึ่งผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปีนี้อยู่ที่ 765 ล้านบาท

ราศีกันย์กับการเปิดธุรกิจร้านอาหาร ร้านกาแฟ

ราศีกันย์ (Virgo)




                    ชาวราศีกันย์เป็นราศีธาตุดิน มีความหนักแน่นมั่นคง ชาวราศีกันย์จึงเป็นราศีที่ทำอะไรก็จะไม่วู่วาม ใจเย็นและเป็นคนที่มีสติในการทำงาน เหมาะกับการเป็นอาจารย์ผู้สอนหรือเป็นวิทยากร หากจะทำอาชีพเกี่ยวกับอาหารเหมาะกับการแนะนำหรือการสอนมากกว่า เป็นผู้ถ่ายทอดวิทยายุทธในการทำอาหารจานเด็ดนั่นเอง หากสนใจธุรกิจร้านกาแฟละก็ ประเภทที่เหมาะสมคือ ร้านกาแฟแบบRoaster/Retailers หรือ ร้านกาแฟแบบRetail Coffee Shop



บทความที่คล้ายกัน
แต่งร้านกาแฟให้เหมาะกับกรุ๊ปเลือด
ร้านกาแฟแบบRetail Coffee Shop
- ร้านกาแฟแบบRoaster/Retailers

- ร้านกาแฟแบบCoffee House
- ร้านกาแฟแบบDrive Thru Coffee Shops




~ร้านกาแฟแบบต่างๆ
ด็กร้านกาแฟ --> "ปล.เพื่อนคนไหนที่สนใจบทความดีๆจากเว็บเด็กร้านกาแฟ สามารถสมัครรับบทความที่อัพเดทผ่านอีเมลล์ ในช่อง"Follow by Email"ทางด้านบนขวามือค่ะ เพียงกรอกอีเมลล์แล้วกด Submit จากนั้นเข้าไปเช็คอีเมลล์ที่ทางเว็บเด็กร้านกาแฟส่งไปให้ แล้วคลิกยืนยัน เป็นอันเสร็จค่ะ

หาเครื่องชงกาแฟ

 

"General stats"

"เด็กร้านกาแฟ"--เด็กร้านกาแฟ แนะนำวิธีเปิดร้านกาแฟ-- Copyright © 2011 | Tema diseñado por:compartidisimo | เด็กร้านกาแฟ.blogspot.com : Blogger