เริ่มต้น"ร้านกาแฟ"
จากประสบการณ์ความสำเร็จ เจาะลึกทุกขั้นตอนการเปิดร้านกาแฟ ตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงขั้นสูงสุด และบทความดีๆมากมายให้คุณได้ศึกษากันทุกซอกทุกมุมเกี่ยวกับธุรกิจร้านกาแฟ

“รีเทลลิงค์” คว้าแบรนด์ดังทำตลาด ขยายร้านรุกชุมชน-เจาะเมืองหลัก

สถานะการตลาด MARKETING จาก thannews.th.com ==> อุปกรณ์ทำกาแฟโต1,000%
               รีเทลลิงค์รับผลพวงธุรกิจร้านกาแฟบูม ปี 2553 โกยยอดขาย 1,700 ล้านบาท ชิงส่วนแบ่งตลาดได้กว่า 30% เผยตั้งแต่ต้นมกราคมปีนี้ เครื่องทำกาแฟ 2 ยี่ห้อดังติดอันดับโลกวางใจให้เป็นตัวแทนจำหน่ายเพียงรายเดียว พร้อมวางแผนบุกตลาดเต็มสูบ ขยายร้านกาแฟชุมชนต้นแบบเพิ่มอีก 3 แห่ง ใน 3 เมืองหลัก เชียงใหม่ หาดใหญ่ อุดรธานี ขณะเดียวกันเดินหน้ารุกตลาดอุปกรณ์ทำอาหารอย่างจริงจัง พร้อมกับเปิดธุรกิจใหม่ทำความสะอาดอาคารสูง คาดหมายดันรายได้รวมทั้งปีเพิ่มอีกเท่าตัว

               นายนริศ ธรรมเกื้อกูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท รีเทลลิงค์ (ไทยแลนด์) จำกัดบริษัทในกลุ่ม ซีพี ออลล์ ที่ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายอุปกรณ์ประกอบอาหาร เครื่องดื่มและอุปกรณ์ต่างๆในการประกอบธุรกิจอาหาร เช่น ภัตตาคาร โรงแรม ร้านสะดวกซื้อเปิดเผยว่า ในปี 2553 ที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานของบริษัทมีการเติบโตโดยเฉลี่ย 12% สูงกว่าตลาดโดยภาพรวมซึ่งหดตัวถึง 30% เนื่องจากเหตุการณ์วุ่นวายทางการเมือง ส่งผลกระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยว โดยยอดขายรวมตลอดทั้งปีประมาณ 1,700 ล้านบาท ทั้งนี้สินค้าที่ทำรายได้หลักคืออุปกรณ์เครื่องดื่ม มีสัดส่วนยอดขายสูงถึง 90% ของยอดขายรวมทั้งบริษัท ที่เหลือเป็นยอดขายอุปกรณ์ประกอบอาหาร 

               ปีที่ผ่านมายอมรับว่าอุปกรณ์เครื่องดื่มโดยเฉพาะเครื่องชงกาแฟมีการเติบโตอย่างมากทั้งนี้ รีเทลลิงค์สามารถขายเครื่องชงกาแฟราคาหลักแสนบาท เพียงตัวเดียวขายได้ถึง1,000 เครื่อง คิดเป็นยอดขาย 100 ล้านบาท ทำให้เครื่องชงกาแฟ 2 ยี่ห้อ คือNUOVA SIMONILLE และ RANCILIO ซึ่งเป็นแบรนด์ติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลก เซ็นสัญญาให้บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงรายเดียวในประเทศไทย จากเดิมมีตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย 3-4 ราย เพราะในปี 2553 รีเทลลิงค์บริษัทเดียวสั่งซื้อ 1,000เครื่อง สูงกว่าตัวแทนจำหน่ายทุกรายรวมกัน 

                นอกจากนี้ยังมีผู้สนใจเข้ารับการอบรมในโครงการกาแฟสร้างอาชีพเพื่อสังคมและชุมชน ตลอดทั้งปี 2553 รวมแล้ว 13 รุ่น จำนวน 900 คน และยังมีรายชื่อที่รอบรรจุเข้ารับการอบรมอีกประมาณ 2,000 ราย จะเห็นได้ว่าขณะนี้มีผู้ให้ความสนใจเปิดกิจการร้านกาแฟสดค่อนข้างมาก แม้บริษัทจะขยายการจัดอบรมจากเดือนละ 2 ครั้งเป็น 4 ครั้ง อีกทั้งเพิ่มจำนวนผู้เข้าอบรมจากรุ่นละ 40คน เป็นรุ่นละ 80 คน ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ

                 "ในปีที่ผ่านมายอดการนำเข้าเครื่องอุปกรณ์ทำกาแฟในปี 2553 สูงกว่าปีก่อนหน้าประมาณ 1,000% ทั้งๆ ที่เมื่อ 5-6 ปีก่อน รีเทลลิงค์มีแผนจะรุกเข้ามาทำตลาดเครื่องชงกาแฟ เคยมีผู้เตือนว่าอย่าเข้ามา ตลาดกำลังจะอิ่มตัว แต่ผมไม่เชื่อเพราะจากการศึกษาสถิติการบริโภคกาแฟของทั่วโลก คนยุโรปบริโภควันละ 5 แก้ว แต่คนไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 0.5 แก้ว ฉะนั้นโอกาสยังมีอีกมาก"

                 นายนริศกล่าวต่อไป สาเหตุที่คนไทยบริโภคกาแฟสดน้อยก็เพราะราคาค่อนข้างแพงตั้งราคาขายแก้วละ 60-100 บาท แต่จากการวิจัยผู้บริโภคได้คำตอบว่าอยากดื่มกาแฟสด แต่ไม่สามารถจ่ายได้ จึงหันไปดื่มกาแฟสำเร็จรูปซึ่งมีราคาถูกกว่าแทน นอกจากนี้ยังได้วิจัยเกี่ยวกับราคาที่ลูกค้าสามารถจ่ายได้ พบว่าอยู่ที่แก้วละ 25 บาท สำหรับกาแฟร้อน และ 30 บาท สำหรับกาแฟเย็น ทำให้บริษัทเกิดแนวคิดเปิดร้านกาแฟต้นแบบ ตั้งราคาตามนั้น ปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดี ขณะนี้ยอดขายเฉลี่ยวันละ 200-300 แก้วทั้งที่ในละแวกเดียวกันมีร้านกาแฟสดอยู่ถึง 6 ร้าน

                  ในปีนี้มีแผนจะขยายร้านกาแฟต้นแบบเพิ่มอีก 3 แห่ง ใน 3 เมืองหลัก ได้แก่ เชียงใหม่ หาดใหญ่ และอุดรธานี เพื่อรองรับความสนใจในธุรกิจร้านกาแฟที่เพิ่มขึ้นอย่างมากพร้อมกันนี้วางแผนจะขยายศูนย์บริการให้ครบทุกจังหวัดใน 3 ปี จากปัจจุบันที่มี 36จังหวัด โดยตั้งเป้าจะเพิ่มการทำยอดขายของพนักงานให้ได้ 2 ล้านบาทต่อคน ภายในอีก 2 ปี ซึ่งปัจจุบันรีเทลลิงค์มีพนักงานทั้งสิ้น 1,200 คน โดยบริษัทยึดระบบการเพิ่มผลผลิตTPM (Total Productive Management) ในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการให้บริการแก่ลูกค้า บวกด้วยกลยุทธ์การให้บริการหลังการขาย และสัญญาบริการ แบบครบวงจรตลอด 7 วัน และ 24 ชั่วโมง ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศด้วยศูนย์บริการ 36 จุด ทีมช่างมัลติ สกิลล์ 500 คน จากพนักงานช่างประจำที่มี 800 คน และรถบริการกว่า400 คัน แบ่งเป็นกระบะ 100 คัน จักรยานยนต์ 300 คัน 

                  ทั้งนี้ ในปี 2554 บริษัทวางแผนรุกตลาดอุปกรณ์ประกอบอาหารอย่างจริงจัง หลังจาก3 ปีที่ผ่านมาได้บุกตลาดอุปกรณ์เครื่องดื่มจนอยู่ตัวแล้ว โดยจะเน้นอุปกรณ์ 4 ชนิด มีเครื่องล้างจาน เครื่องอบ เตาทอด และเครื่องปิ้งย่าง คาดว่าจะได้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นอีก 4%
นอกจากนี้มีแผนจะขยายธุรกิจใหม่ๆเพิ่ม โดยจะให้บริการทำความสะอาดภายนอกอาคารสูง ซึ่งปัจจุบันในกรุงเทพฯ มีอาคารสูงเกิดขึ้นจำนวนมาก แต่มีผู้เล่นในตลาดนี้เพียง 2-3 รายเท่านั้น จึงเป็นโอกาสของรีเทลลิงค์ที่จะแทรกตัวเข้าไป คาดว่าธุรกิจใหม่นี้จะทำให้ยอดรายได้ของบริษัทเติบโตเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,599 9-12 มกราคม พ.ศ. 2554

¡เด็กร้านกาแฟ!

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หาเครื่องชงกาแฟ

 

"General stats"

"เด็กร้านกาแฟ"--เด็กร้านกาแฟ แนะนำวิธีเปิดร้านกาแฟ-- Copyright © 2011 | Tema diseñado por:compartidisimo | เด็กร้านกาแฟ.blogspot.com : Blogger